เขื่อนวชิราลงกรณ
อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ชมวิวความงามทะเลสาบจากบนสันเขื่อนที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเมืองไทย
แม่น้ำแควน้อยมีความยาว 390 กิโลเมตร เพื่อพัฒนาลำน้ำนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม โดยมีวัตถุประสงค์ด้านผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น “เขื่อนวชิราลงกรณ” เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทยที่ดาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 92 เมตร สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร และยาว 1,019 เมตร สร้างปิดกั้นแม่น้ำแควน้อยบริเวณตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ตัวอ่างเก็บน้ำอยู่ในท้องที่อำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สามารถขับรถขึ้นไปบนสันเขื่อนเพื่อชมวิวได้สะดวก ภายในทะเลสาบเหนือเขื่อนมีกิจกรรม ให้นักท่องเที่ยวได้รื่นรมย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือชมทิวทัศน์เหนืออ่างเก็บน้ำ การชมสวนมะพร้าว กะทิบนเกาะกลางน้ำ และในบางฤดูกาลยังสามารถตกปลาได้จากในทะเลสาบ สร้างความความสนุกสนาน ให้นักเย่อกับปลาได้มากมายทีเดียว เปิดให้เข้าชมทุกวัน 6.00 – 18.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โทร.+66 3459 9077 ต่อ 2502, 2506 หรือที่กรุงเทพฯ โทร.+66 2436 6046-8
วิวทะเลสาบเหนือเขื่อนวชิราลงกรณ โอบล้อมด้วยภูเขา
อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีมาประมาณ 149 กม. บนถนนหลวงหมายเลข 3272 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ป้ายทางเข้า “เขื่อนวชิราลงกรณ” สังเกตุว่า จะไม่มีตัวการันต์ ( ์ ) หลายคนนำไปเขียนผิด
บริเวณสวนพักผ่อน แวะเก็บภาพคู่กับป้ายเป็นที่ระลึก
เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทยที่ดาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก
เริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2522 เสร็จในปี พ.ศ. 2527 เขื่อนมีความจุ 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 5,369 ล้านลูกบาศก์เมตร
ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 เครื่องบริเวณปล่อยน้ำ ขนาดกำลังผลิต 100,000 กิโลวัตต์ รวมกำลังผลิต 300,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 760 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
ทางขึ้นสันเขื่อน เขื่อนวชิราลงกรณเป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทยที่ดาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 92 เมตร
สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร และยาว 1,019 เมตร
ลิงจากเขามักจะมาวนเวียนแถวสันเขื่อน น่ารักดี แต่ระวังของสัมภาระด้วย มิฉะนั้นจะโดนขโมยดังเช่นภาพนี้ ^^
เขื่อนวชิราลงกรณ
ข้อมูลท่องเที่ยว
- ชื่อ : เขื่อนวชิราลงกรณ (ชื่อเดิม เขื่อนเขาแหลม)
- ประเภท : เขื่อน จุดชมวิว ถ่ายภาพ
- ที่ตั้ง : ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี 149 กม. ในตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
- GPS : 14.7994444 , 98.5969444
- เปิดบริการ : 6.00 – 18.00 น.
- ค่าเข้าชม : ฟรี
- สถานที่จอดรถ : บนสันเขื่อนสามารถนำรถขึ้นไปจอดได้
- Website : www.vrk.egat.com
- โทรศัพท์ : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โทร.+66 3459 9077 ต่อ 2502, 2506 หรือที่กรุงเทพฯ โทร.+66 2436 6046-8
การเดินทาง
- รถโดยสารประจำทาง หากเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี หรือโดยรถไฟสายท่องเที่ยวจากสถานี รถไฟบางกอกน้อย ก็สามารถต่อรถโดยสารประจำทางที่ท่ารถในอำเภอเมือง มาลงปลายที่ทองผาภูมิ แล้วจ้างเหมารถยนต์รับจ้างให้พาเที่ยวชมเขื่อนและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
- รถส่วนตัว เขื่อนวชิราลงกรณ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 278 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ใช้เส้นทางถนนสายเพชรเกษมหรือสายพุทธมณฑล เข้าสู่จังหวัด กาญจนบุรี แล้วเดินทางต่อไปตามทางหลวงหมายเลข 323 มุ่งสู่อำเภอทองผาภูมิ เป็นระยะทาง 149 กิโลเมตร ก็จะถึงอำเภอทองผาภูมิ จากทองผาภูมิไปยังเขื่อนอีกประมาณ 20 กิโลเมตร
ความรู้เพิ่มเติม
เขื่อนเริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคม 2522 เสร็จในปี 2527 แต่เดิมมีชื่อว่า เขื่อนเขาแหลม หลังสร้างเสร็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ ทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนวชิราลงกรณ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม 2529 และพระราชทานชื่อใหม่ว่า เขื่อนวชิราลงกรณ
เขื่อนวชิราลงกรณเป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทย เททับหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก เขื่อนสูงจากฐาน 92 เมตร สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร ยาว 1,019 เมตร มีความจุ 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 5,369 ล้านลูกบาศก์เมตร บริเวณปล่อยน้ำได้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 เครื่อง ขนาดกำลังผลิต 100,000 กิโลวัตต์ รวมกำลังผลิต 300,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 760 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
เขื่อนวชิราลงกรณเป็นเขื่อนเอนกประสงค์โดยมีวัตถุประสงค์ด้านผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก สร้างปิดกั้นแม่น้ำแควน้อยบริเวณตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ห่างจากตัวอำเภอไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 6 กิโลเมตร ตัวอ่างเก็บน้ำอยู่ในท้องที่อำเภอท้องผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มีพื้นที่รับน้ำฝน 3,720 ตารางกิโลเมตร
ประโยชน์
- ด้านพลังงาน สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เฉลี่ยปีละประมาณ 760 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
- บรรเทาอุทกภัย โดยปกติน้ำในฤดูฝน ทั้งในลำน้ำแควน้อย และแควใหญ่จะมีปริมาณมาก เมื่อไหลมารวมกันจะทำให้เกิดน้ำท่วม ลุ่มแม่น้ำแม่กลองเป็นประจำ หลังจากได้ก่อสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณแล้วเสร็จ อ่างเก็บน้ำของเขื่อนทั้งสองจะช่วยเก็บกักไว้ เป็นการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าวอย่างถาวร
- ด้านการชลประทานและการเกษตร ทำให้มีแหล่งน้ำถาวรเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่ง เพื่อช่วยเสริมระบบชลประทาน ในพื้นที่ของโครงการแม่กลองใหญ่ โดยเฉพาะทำการเพาะปลูกในฤดูแล้ง จะได้ผลผลิตการเกษตรเพิ่มขึ้น
- ด้านการประมง อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนเหมาะสำหรับเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดได้เป็นอย่างดี และยังช่วยเพิ่มพูนรายได้ให้แก่ประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย
- รักษาคุณภาพน้ำแม่กลอง ต้านน้ำเค็มและน้ำเสียในฤดูแล้ง รวมทั้งยังมีน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมของสองฝั่งแม่กลองอีกส่วนหนึ่ง และจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนเพิ่มขึ้นในฤดูแล้งจะช่วยขับไล่น้ำเสียและผลักดันน้ำเค็มทำให้สภาพน้ำในแม่น้ำแม่กลองมีคุณภาพดีขึ้น
- ด้านการท่องเที่ยว เขื่อนวชิราลงกรณเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก